ติดโซล่าชาร์จรถ EV ที่บ้าน คุ้มจริงไหม? เช็ค 4 เรื่องที่คุณควรรู้ก่อนติดตั้ง
ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ การ ติดโซล่าชาร์จ หรือระบบโซลาร์เซลล์ที่บ้านสำหรับชาร์จรถ EV กำลังกลายเป็นเทรนด์มาแรง ทั้งในแง่ของ ความประหยัด ค่าไฟลดจริง และ การใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
แต่ก่อนตัดสินใจติดตั้ง เราควรเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง? วันนี้เราจะพาคุณมารู้จัก 4 เรื่องสำคัญ ที่ต้องรู้ก่อนติดโซล่าชาร์จที่บ้าน เพื่อให้คุ้มค่า ปลอดภัย และใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
1. ติดโซล่าชาร์จแล้ว “ประหยัดค่าไฟ” ได้จริงแค่ไหน?

การติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่บ้านสามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้จริง โดยเฉพาะในระยะยาว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของระบบโซลาร์เซลล์ พฤติกรรมการใช้งาน และการออกแบบระบบที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
ประหยัดค่าไฟได้มากน้อยแค่ไหน?
โดยเฉลี่ย รถ EV หนึ่งคันต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการชาร์จประมาณ 12–20 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อวัน หรือ 360–600 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อเดือน หากคิดอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ 4.5–5.0 บาทต่อหน่วย ค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถ EV จะอยู่ที่ประมาณ 1,600 – 3,000 บาทต่อเดือน
การติดตั้งโซลาร์เซลล์สามารถช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้า โดยเฉพาะเมื่อใช้ระบบ Hybrid พร้อม EV Charger ซึ่งสามารถ:
ระบบโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสมกับการใช้งานร่วมกับรถ EV
คำนวณความคุ้มค่าเบื้องต้น
รายการ 5868_b7e320-b3> |
ค่าใช้จ่ายปกติ (บาท/เดือน) 5868_3fade6-3b> |
ค่าใช้จ่ายเมื่อมีโซลาร์เซลล์ (บาท/เดือน) 5868_d8dc53-a5> |
ประหยัดได้ (บาท/เดือน) 5868_1858d0-e4> |
ค่าไฟสำหรับชาร์จรถ EV 5868_9c0420-2e> |
2,500 5868_481edb-62> |
300–500 5868_0ea539-e5> |
ประมาณ 2,000 5868_e2c16a-0b> |
การติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อชาร์จรถ EV ที่บ้านเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
2. ตรวจสอบระบบไฟบ้านก่อนติดตั้ง
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านก่อนติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยควรพิจารณาดังนี้:
1. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้าน
2. ประเมินความพร้อมของโครงสร้างหลังคา
3. การขออนุญาตติดตั้ง
4. การติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger)
5. การเลือกผู้ติดตั้งที่มีความเชี่ยวชาญ
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านและการเตรียมความพร้อมก่อนติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งาน
3. ตำแหน่งแผงโซล่าคือหัวใจของระบบ
การเลือกตำแหน่งและทิศทางของแผงโซลาร์เซลล์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการผลิตพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร การวางแผงให้เหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของระบบได้อย่างมาก
ทิศทางที่เหมาะสมที่สุดในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
มุมเอียงที่เหมาะสมของแผงโซลาร์เซลล์
การปรับมุมเอียงของแผงให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ตั้งจะช่วยให้แผงรับแสงแดดได้เต็มที่ โดยทั่วไปในประเทศไทย มุมเอียงที่แนะนำมีดังนี้:
การปรับมุมเอียงให้เหมาะสมกับละติจูดของพื้นที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 5%
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
การวางแผงโซลาร์เซลล์ในทิศทางและมุมเอียงที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว
4. คำนวณขนาดระบบให้เหมาะกับการใช้งานจริง
การคำนวณขนาดระบบโซลาร์เซลล์สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่บ้านเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าระบบสามารถผลิตพลังงานได้เพียงพอต่อการใช้งานและคุ้มค่าการลงทุนในระยะยาว ต่อไปนี้คือแนวทางการคำนวณที่เหมาะสม:
ขั้นตอนการคำนวณขนาดระบบโซลาร์เซลล์สำหรับชาร์จ EV
พลังงานที่ใช้ต่อวัน = 50 กม. × 0.2 kWh/กม. = 10 kWh/วัน
ขนาดแผงโซลาร์เซลล์ที่ต้องการ = 10 kWh ÷ 5 ชั่วโมง = 2 kW
เพื่อความมั่นใจในการผลิตพลังงานเพียงพอ ควรเผื่อกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 20%:
ขนาดแผงโซลาร์เซลล์ที่แนะนำ = 2 kW × 1.2 = 2.4 kW
เพื่อความมั่นใจในการผลิตพลังงานเพียงพอ คดังนั้น ควรติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาดประมาณ 2.5 kW
หากต้องการเก็บพลังงานไว้ใช้ในช่วงที่ไม่มีแสงแดด (เช่น กลางคืน) ควรพิจารณาติดตั้งแบตเตอรี่:
ขนาดแบตเตอรี่ที่ต้องการ = 10 kWh (พลังงานที่ใช้ต่อวัน)
หากต้องการเก็บพลังงานไว้ใช้ในช่วงที่ไม่มีแสงแดด (เช่น กลางคืน) ควรพิจารณาติดตั้งแบตเตอรี่:
ขนาดแบตเตอรี่ที่ต้องการ = 10 kWh (พลังงานที่ใช้ต่อวัน)
เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ควรเผื่อความจุเพิ่มขึ้นประมาณ 20%:
ขนาดแบตเตอรี่ที่แนะนำ = 10 kWh × 1.2 = 12 kWh
อินเวอร์เตอร์ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าจาก DC เป็น AC:
ขนาดอินเวอร์เตอร์ที่ต้องการ = 2.5 kW (ขนาดแผงโซลาร์เซลล์)
เพื่อรองรับการใช้งานในอนาคต ควรเผื่อกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 25%:
ขนาดอินเวอร์เตอร์ที่แนะนำ = 2.5 kW × 1.25 = 3.125 kW
สรุปขนาดอุปกรณ์ที่แนะนำสำหรับการชาร์จรถ EV ที่บ้าน
อุปกรณ์ 5868_65fdc6-51> |
ขนาดที่แนะนำ 5868_2fc5cd-9b> |
แผงโซลาร์เซลล์ 5868_67afc0-48> |
2.5 kW 5868_e1904f-71> |
แบตเตอรี่ 5868_1fb781-82> |
12 kWh 5868_9ab02e-46> |
อินเวอร์เตอร์ 5868_cd59b5-24> |
3.125 kW 5868_a0916b-a9> |
ทำไมต้องติดโซล่าชาร์จกับ SUNNERGY?
สรุป: “ติดโซล่าชาร์จ” คือการลงทุนเพื่ออนาคต
หากคุณใช้รถ EV เป็นประจำ และอยากประหยัดค่าไฟทุกเดือน การ ติดโซล่าชาร์จ คือทางเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ใช้พลังงานสะอาด และเพิ่มความสะดวกในการชาร์จได้ทุกวันจากที่บ้านของคุณเอง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ติดโซล่าชาร์จ
Q: บ้านต้องใช้พื้นที่หลังคาเท่าไหร่ถึงจะติดโซล่าชาร์จได้?
A: โดยทั่วไปจะใช้พื้นที่ประมาณ 15–30 ตร.ม. ขึ้นอยู่กับขนาดระบบและจำนวนแผงที่ต้องการใช้งานร่วมกับรถ EV
Q: ถ้าบ้านไม่มี Battery Storage จะชาร์จรถตอนกลางคืนได้ไหม?
A: ถ้าไม่มีแบตเตอรี่ ระบบจะใช้ไฟจากการไฟฟ้าตามปกติในช่วงไม่มีแดด แต่สามารถออกแบบให้ใช้พลังงานโซลาร์ในช่วงกลางวันได้เต็มประสิทธิภาพ
Q: ระบบโซล่าชาร์จรองรับรถ EV ทุกรุ่นหรือไม่?
A: รองรับรถ EV ทุกแบรนด์ที่ชาร์จด้วยไฟบ้านมาตรฐาน เช่น BYD, Tesla, MG, ORA ฯลฯ โดยใช้ร่วมกับ EV Charger
Q: การติดโซล่าชาร์จต้องขออนุญาตหรือไม่?
A: หากเป็นการติดตั้งเพื่อใช้เองในบ้านทั่วไป ไม่ต้องขออนุญาต แต่ควรแจ้งการไฟฟ้าเพื่อความถูกต้องตามระเบียบ
Q: คืนทุนในกี่ปี?
A: ปกติคืนทุนภายใน 4–7 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดระบบ ค่าไฟที่ใช้ และพฤติกรรมการชาร์จ